1. วัตถุประสงค์ของการให้ความคุ้มครองเครื่องหมายการค้า ณ จุดส่งออกและนำเข้า
เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ และเพื่อให้สินค้าที่ส่งออกไปนอกหรือเข้ามาในราชอาณาจักร มีเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการจดทะเบียนโดยถูกต้องตามกฎหมายไม่ว่าจะได้จดทะเบียนไว้ในหรือนอกราชอาณาจักร
2. เครื่องหมายการค้าที่ขอรับความคุ้มครอง
เครื่องหมายการค้าที่จะขอรับความคุ้มครองได้ ต้องเป็นเครื่องหมายการค้าที่เจ้าของได้จดทะเบียนไว้แล้ว สำหรับสินค้าไม่ว่าชนิดใดชนิดหนึ่ง หรือหลายชนิด โดยถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าจะได้จดทะเบียนไว้ในหรือนอกราชอาณาจักร และมีอยู่ในบัญชีรายชื่อที่นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าได้แจ้งไปยังกรมศุลกากร
3. การแจ้งขอรับความคุ้มครอง
3.1 เจ้าของเครื่องหมายการค้า หรือผู้รับมอบอำนาจ ที่ประสงค์จะขอรับความคุ้มครองเครื่องหมายการค้าของตน ให้ปฏิบัติดังนี้
3.1.1 แจ้งความจำนงต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ พร้อมทั้งแสดงหลักฐานตามเงื่อนไข หลักเกณฑ์ และวิธีการ ตามที่กำหนดในประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการส่งสินค้าออกไปนอกและการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2530 ลงวันที่ 14 ตุลาคม 2530
3.1.2 ร้องขอต่อพนักงานศุลกากร เพื่อให้ตรวจสอบเครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าที่มีการส่งออกหรือนำเข้าในกรณีที่มีเหตุสงสัยว่าจะมีเครื่องหมายการค้าปลอมหรือเลียนเครื่องหมายการค้าของตน ก่อนที่พนักงานศุลกากรจะทำการตรวจปล่อยสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักรหรือส่งมอบสินค้าให้แก่ผู้นำเข้าในแต่ละครั้ง
3.2 สินค้าหรือสิ่งของที่ไม่สามารถแจ้งความจำนงต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าขอรับความคุ้มครอง หรือร้องทุกข์ต่อพนักงานศุลกากรเพื่อให้ตรวจสอบเครื่องหมายการค้า ได้แก่
3.2.1 ของใช้ส่วนตัวหรือของใช้บ้านเรือนที่ผู้เดินทางออกไปนอกหรือเข้ามาในราชอาณาจักรนำติดตัวออกไปหรือเข้ามาด้วยในปริมาณที่สมควร
3.2.2 ของที่ระลึกที่ผู้เดินทางออกไปนอกหรือเข้ามาในราชอาณาจักรนำติดตัวออกไป หรือเข้ามาด้วยในปริมาณที่สมควร
4. เอกสารประกอบการแจ้งขอรับความคุ้มครอง
4.1 เครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนไว้ในประเทศไทย ให้แนบเอกสารดังต่อไปนี้พร้อมคำขอ
4.1.1 สำเนาหนังสือคู่มือรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าซึ่งมีคำรับรองว่าเป็นสำเนาถูกต้อง หรือสำเนาทะเบียนแบบและเครื่องหมายการค้าซึ่งมีคำรับรองจากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจให้คำรับรอง รับรองว่าเป็นสำเนาถูกต้อง
4.1.2 ต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจ กรณีที่มอบอำนาจให้ตัวแทนกระทำการแทน
4.1.3 ต้นฉบับหนังสือรับรองการเป็นนิติบุคคล ซึ่งมีคำรับรองของผู้มีอำนาจให้คำรับรองและออกให้ภายในกำหนดเวลาไม่เกินหกเดือนนับแต่วันที่ได้ออกหนังสือรับรองนั้น สำหรับในกรณีที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าเป็นนิติบุคคล
4.1.4 กรณีที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าไม่ได้มีภูมิลำเนาอยู่ในราชอาณาจักร เอกสารตาม 4.1.2 และ 4.1.3 ที่ได้กระทำขึ้นนอกราชอาณาจักร จะต้องมีคำรับรองของเจ้าพนักงานโนตารีปับลิก และกงสุลไทยหรือสถานเอกอัครราชทูตไทยในประเทศนั้นด้วย
4.1.5 หนังสือยินยอมรับผิดชอบของผู้ขอรับความคุ้มครองในความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการร้องขอรับความคุ้มครอง
4.1.6 ตัวอย่างสลากเครื่องหมายการค้าจริงที่ใช้กับสินค้าชนิดนั้นๆ
4.2 เครื่องหมายการค้าที่จดทะเบียนไว้นอกราชอาณาจักร ให้แนบเอกสารดังต่อไปนี้พร้อมคำขอ
4.2.1 สำเนาหนังสือสำคัญหรือเอกสารอื่นที่แสดงว่าเป็นเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการจดทะเบียนโดยมีคำรับรองจากสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าของประเทศนั้นๆ และเอกสารดังกล่าวอย่างน้อยต้องมีรายการ ดังต่อไปนี้
ก. ชื่อเจ้าของเครื่องหมายการค้า
ข. คำและหรือรูปเครื่องหมายการค้า
ค. จำพวกและรายการสินค้า
ง. เงื่อนไขและข้อจำกัด (ถ้ามี)
จ. วันยื่นคำขอจดทะเบียนและวันสิ้นอายุการจดทะเบียน
4.2.2 ต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจ กรณีที่มอบอำนาจให้ตัวแทนกระทำการแทน
4.2.3 ต้นฉบับหนังสือรับรองการเป็นนิติบุคคล ซึ่งมีคำรับรองของผู้มีอำนาจให้คำรับรองและออกให้ภายในกำหนดเวลาไม่เกินหกเดือนนับแต่วันที่ได้ออกหนังสือรับรองนั้น สำหรับในกรณีที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าเป็นนิติบุคคล
4.2.4 เอกสารตาม 4.2.1 , 4.2.2 และ 4.2.3 ที่ได้กระทำขึ้นนอกราชอาณาจักร ให้นำหลักเกณฑ์ตามข้อ 3.1.4 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
4.2.5 หนังสือยินยอมรับผิดชอบของผู้ขอรับความคุ้มครองในความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากการร้องขอรับความคุ้มครอง
4.2.6 ตัวอย่างสลากเครื่องหมายการค้าจริงที่ใช้กับสินค้าชนิดนั้นๆ
5. แบบการแจ้งความจำนง
การแจ้งความจำนงต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้า เพื่อขอรับความคุ้มครองต้องทำตามแบบ ที่กำหนด คือ แบบฟอร์มคำขอแจ้งความจำนงขอรับความคุ้มครองเครื่องหมายการค้า ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการส่งสินค้าออกไปและการนำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2530
เจ้าของเครื่องหมายการค้า (หรือผู้รับมอบอำนาจ) ที่ประสงค์จะแจ้งขอรับความคุ้มครองเครื่องหมายการค้า ณ จุดส่งออกและนำเข้า สามารถยื่นคำขอต่อสำนักงานป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา
|